อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ เจียรมณีทวีสิน) จาก บริษัท Actuarialbiz (ABS)
ทุกคนต่างก็คงเคยมีการตั้งเป้าหมายเรื่องของการมีเงินล้านไว้อยู่บ้าง แต่จะวางแผนว่าต้องทำอย่างไรและกี่ปีถึงจะมีเงินล้าน อีกทั้งต้องใช้เงินมากน้อยแค่ไหนในการออม วันนี้เราไปเจาะลึกในประเด็นนี้กันครับ
การจะออมให้ได้เงินล้านเร็วหรือไม่นั้นต้องแล้วแต่มุมมองของแต่ละคนนะครับ บางคนมองว่าต้องใช้เวลา 10 ปี ถึง 30 ปีเลย และก็ขึ้นอยู่กับว่ากับว่าเงินต้นนั้นมีเท่าไหร่
จุดตายมันอยู่ที่ตรงนี้ครับ คือ 1.คุณมีเงินตั้งต้นเท่าไหร่ 2.พลังในการออมวิ่งเป็นดอกเบี้ยไปเท่าไหร่ และ 3.มีเวลาให้กับการออมเท่าไหร่ คิดง่ายๆว่าเราจะปลูกต้นเงินล้านนั้นต้องใช้อะไรบ้าง ต้นกล้าก็คือเงินต้น ปุ๋ยก็คือดอกเบี้ย และจากนั้นก็ต้องปล่อยให้มันเติบโตไปตามเวลา
ซึ่งทั้ง 3 มิตินี้เองครับ จะมีสัดส่วนให้คำนวณได้แบบตายตัวอยู่ อันที่จริงแล้ว มีคนบอกว่า ทำเงินล้านได้ยาก เพราะกว่าจะหาเงินต้นมาได้นี้ มันยากเย็นเหลือเกิน ก็เลยดับความฝันเงินล้านของตัวเองไป
แต่สำหรับผมมองว่า เราสามารถวางแผนเงินล้านได้โดยเน้นเรื่องของ พลังของดอกเบี้ย กับพลังของเวลา สมมุติเรามีเงินต้นแค่หนึ่งบาท มันจะกลายเป็นสองบาทได้อย่างไร อย่างที่เราคุยกันไปแล้วว่าดอกเบี้ยกับเวลาที่จริงแล้วมันมีความสัมพันธ์กันอยู่
ตอนที่ผมสอนนักศึกษา ก็เคยมีคนถามผมว่า “จะออมยังไงให้ได้ล้านนึงครับอาจารย์” กับกรณีถ้าไม่มีเงินก้อนเลย แล้วอยากตั้งต้นเก็บเงิน ผมเลยถามกลับไปที่นักศึกษาคนนั้นว่าเราควรออมวันละเท่าไหร่ดี เค้าตอบผมกลับแบบกวนๆ นิดหน่อยว่า “อาจารย์ วันละ 20 บาทแล้วกันครับ”
“20 บาทเท่านั้นเอง แน่ใจนะ” ผมตอบกลับไปแบบหน้านิ่งๆ
จากนั้น ก็เปิดเครื่องคิดเลขคํานวณแบบไฟแนนซ์ให้ดู ใช้เวลา 25 ปี วันละ 20 บาทนะ นักศึกษาก็กดเครื่องคิดเลขตามเลย เอา 20 บาท 25 ปี เองจริง ๆ เหรอ พร้อมกับทำหน้างุนงง
สมมุติปีนึงมี 365 วันใช่ไหมครับ เราก็เอา 20 บาท คูณด้วย 365 วัน ได้มาแล้วปุ๊บ เขาก็กดต่อคูณอีก 25 ปี มันได้เท่ากับ 182,500 บาทเอง นักศึกษาถามว่า “อาจารย์คํานวณผิดหรือเปล่า” เพราะมันไม่ได้ล้านนึง
จากนั้นก็ถึงจังหวะที่ผมสอนในเรื่องของพลังในอัตราดอกเบี้ยให้เขา
“ถ้าออมวันละ 20 บาทต่อเนื่องกัน 25 ปีโดยได้ดอกเบี้ย ถ้าสมมติว่าไปออมในหุ้น ส่วนใหญ่อัตราเฉลี่ยมันจะอยู่ประมาณ 10-12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี สมมุติได้ 12 เปอร์เซ็นต์ ล้านนึงนะครับ ใส่ 20 บาทเข้าไปต่อเนื่องกันเรื่อย ๆ เลย คือหยอดกระปุกเข้าไป ฉะนั้นถ้ากระปุกนั้นมันสามารถทำให้เรามีดอกเบี้ยได้ 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ก็คือ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน เราก็ได้เงินหนึ่งล้านนะครับ”
ผมพูดในมุมกลับกันว่า ถ้าสมมติว่าไปยืมคนอื่นมา 20 บาทต่อวันแล้วโดนดอกเบี้ย 1 เปอร์เซ็นต์ต่อเดือน หรือว่า 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ทำอย่างต่อเนื่องไป 25 ปี เราจะติดหนี้เขา 1 ล้านเช่นกัน เพราะฉะนั้นก็อย่าลืมถึงพลังดอกเบี้ยในแง่ลบเวลาไปกู้เงินติดหนี้คนอื่นเขาไว้ด้วย เพราะพลังของดอกเบี้ยมันเป็นทั้งภาพบวกและภาพลบได้นะครับ
นักศึกษาถามผมต่อ “เก็บวันละ 20 บาท ก็ตกเดือนละ 600 บาทถูกต้องไหมครับ”
“ใช่แล้วครับ แล้วหนึ่งล้านบาท นี่คือไม่ยากนะครับ เพราะว่าถ้าสมมุติว่าอยากได้เงินล้านโดยการออม 20 บาท ภายใน 25 ปี จริงๆ เราก็ต้องสมมุติดอกเบี้ยที่ 12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี และถ้าเราต้องการตั้งตัวดอกเบี้ยให้ได้ประมาณนั้น อาจจะต้องมองอะไรที่เป็นระยะยาว ในทางสถิติ มีวิจัยมาแล้วว่า การที่ลงทุนเป็นลักษณะในการออมแบบออมหุ้น ระยะยาวเฉลี่ยมันมีโอกาสจะได้ดอกเบี้ยอยู่ประมาณ 10-12 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ถ้าในตอนนั้นสามารถทนความผันผวนได้ แล้วมีความตั้งใจในการออมจริงๆ คือออมแบบไม่ไปแกะไม่ไปแคะมาใช้เลย แต่การลงทุนมีความเสี่ยง จะต้องศึกษาหาความรู้ในการลงทุนและรับความผันผวนของมันได้นะครับ” ผมตอบเชิงให้ความรู้กลับไป
สรุปว่า ออมวันละ 20 บาท ต่อเนื่องกัน 25 ปี มีสิทธิ์ได้เงินล้าน ครับ
อ้างอิงจาก
คอลัมน์ : คุยฟุ้งเรื่องการเงิน
เขียนโดย อาจารย์ทอมมี่ (พิเชฐ)
FSA, FIA, FRM, FSAT, MBA, MScFE (Hons), B.Eng (Hons)
ขอสงวนสิทธิ์ของเนื้อหาในบทความ ไม่ให้นำไปใช้แสวงหาผลประโยชน์ใด ๆ ในเชิงพาณิชย์ นอกจากจะได้รับอนุญาตจากทางบริษัท ABS เท่านั้น
コメント